ผู้เขียน: admin

ไอคอนสยาม จับมือ YIMU ART และ Intersteps พาคาแรกเตอร์ดัง “แพนด้า Seven” และ “HIPPO GO!” เยือนไทยครั้งแรก

ไอคอนสยาม จับมือ YIMU ART และ Intersteps พาคาแรกเตอร์ดัง “แพนด้า Seven” และ “HIPPO GO!” เยือนไทยครั้งแรก

0 0
Read Time:4 Minute, 27 Second

ไอคอนสยาม จับมือ YIMU ART และ Intersteps
พาคาแรกเตอร์ดัง “แพนด้า Seven” และ “HIPPO GO!” เยือนไทยครั้งแรก
ใน “YIMU ART EXHIBITION” โชว์ผลงานสุดสร้างสรรค์ของ “ลีโอ หวง” ศิลปินดาวรุ่งจีน ร่วมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน วันนี้ถึง 15 สิงหาคม 2568

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา จับมือ อี้มู่ อาร์ต (YIMU ART) สตูดิโอศิลปะชั้นนำจากประเทศจีน และ อินเตอร์สเต็ปส์ (Intersteps) ฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จัด “YIMU ART EXHIBITION” แสดงผลงานอาร์ตสุดสร้างสรรค์ของ ลีโอ หวง (Leo Huang) ศิลปินรุ่นใหม่ดาวรุ่งชาวจีนซึ่งได้รับการยอมรับระดับประเทศ พาคาแรกเตอร์ IP ซิกเนเจอร์อันโด่งดัง “Seven” แพนด้าสีน้ำตาลไซส์ใหญ่ยักษ์ และ “HIPPO GO!” ฮิปโปสีชมพู มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมเปิด Pop-up Shop ยกทัพ Art Toy และของที่ระลึกสุดน่ารักจากคาแรกเตอร์ฮิต ให้ชาวไทยได้ชื่นชมและเลือกเก็บสะสม ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568 ณ ไอคอนสยาม

สุมา วงษ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอคอนสยาม กล่าวว่า “นิทรรศการ YIMU ART EXHIBITION ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับมิตรภาพและเชื่อมสัมพันธ์สองประเทศ ในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน ด้วยการนำผลงานศิลปะของ ลีโอ หวง จาก YIMU ART ซึ่งโด่งดังเป็นอย่างมากในประเทศจีนและเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ มามอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้มาเยือนไอคอนสยามได้ชื่นชมและสัมผัสผลงานศิลปะระดับโลก ซึ่งเต็มไปด้วยจินตนาการ ความสร้างสรรค์ และพลังบวก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและตอกย้ำภาพไอคอนสยาม ในฐานะ Global Experiential Destination ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือทางศิลปะและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติให้กับผู้เข้าชมจากทั่วโลก”

ทั้งนี้ ลีโอ หวง เป็นศิลปินผู้ก่อตั้ง YIMU ART เจ้าของ IP ดังที่นำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกมาสร้างสรรค์เป็นคาแรกเตอร์หลากหลายด้วยศิลปะสื่อผสมผสาน (Cross-Media Art) เพื่อเชื่อมโยงผู้คน ธรรมชาติ และเมือง เข้าด้วยกันผ่านงานศิลป์ ผลงานของเขาครอบคลุมทั้งประติมากรรมเมืองขนาดใหญ่ การแสดงผลงานศิลปะสาธารณะ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านมาเขาได้สร้างแลนด์มาร์กผลงานศิลปะสาธารณะในระดับไอคอนิกมาแล้วใน 9 เมืองทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านศิลปะและผู้อำนวยการบริหารฝ่ายศิลป์ของสถานที่จัดการประชุมหลักใน “การประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลางปี 2023 (ซีอาน)” และยังเคยขึ้นเวที TEDx รวมถึงเป็นศิลปินพิเศษให้กับ Alibaba Group

“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้นำผลงานมาจัดแสดงในประเทศไทย นี่เป็นครั้งแรกที่คาแรกเตอร์ Seven และ HIPPO GO! รวมถึงคาแรกเตอร์อื่น ๆ ภายใต้การสร้างสรรค์ของ YIMU ART ได้มาเยือนกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ ผมหวังว่าพวกเขาจะสามารถทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรม สะท้อนสัมพันธไมตรีและเชื่อมมิตรภาพระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้ รวมถึงสร้างรอยยิ้ม ความสุข และแรงบันดาลใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนไอคอนสยาม แลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ด้วย” ศิลปิน ลีโอ หวง กล่าว

โดยครั้งนี้ YIMU ART และ ลีโอ หวง ได้นำประติมากรรมเป่าลมขนาดใหญ่ ซึ่งโด่งดังจากงาน Design Shanghai หนึ่งในงานออกแบบและสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกับคาแรกเตอร์ซิกเนเจอร์ยอดฮิต 2 ผลงาน IP หลัก ได้แก่ “Seven” แพนด้าสีน้ำตาลไซส์ใหญ่ยักษ์ จากผลงานชุด “Guardians of the Loong: มหาสมบัติแห่งเขาฉินหลิ่ง” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมบัติธรรมชาติ 4 ชนิดของเขาฉินหลิ่ง ซึ่งมีทั้งทาคินสีเหลือง, นกกระเรียนแดง, ลิงทอง และแพนด้าสีน้ำตาลที่มีอยู่เพียงตัวเดียวในโลก โดยเจ้าแพนด้า “Seven” ที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ มาในแนวคิด “ปรัชญาท้องกลมของ Seven” แสดงท่าทางขี้เล่นของแพนด้าหลังจากกินอิ่ม ด้วยการเหยียดขา ลูบท้องกลม ๆ อย่างผ่อนคลาย พร้อมรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ รอให้ทุกคนมาเก็บภาพความน่ารักริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ไอคอนสยาม พาร์ค ชั้น 2 ไอคอนสยาม

และอีกหนึ่งผลงานเด่นคือ “HIPPO GO” คาแรกเตอร์ฮิปโปสีชมพูอ้วนกลม ที่มาแจกความสดใส พร้อมมอบความอบอุ่นและพลังเยียวยาใจให้กับทุกคน ที่โถงระเบียง ชั้น 2 ไอคอนสยาม โดยมาในท่วงท่าที่เหมือนเจ้าฮิปโปยักษ์กำลังปีนขึ้นจากสระน้ำด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และเปี่ยมด้วยความหวัง สื่อถึงจิตวิญญาณแห่งความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนั้นนิทรรศการครั้งนี้ยังยกขบวนคาแรกเตอร์ยอดฮิตทั้งน้องหมี “HELLO! Bear” และเหล่า “Guardians of the Loong: มหาสมบัติแห่งเขาฉินหลิ่ง” มาให้แฟน ๆ ได้ชมความน่ารัก พร้อมเลือกซื้อ Art Toy และของที่ระลึกใน Pop-up Shop บริเวณ Arts Way ชั้น M ไอคอนสยาม อีกด้วย

คนรักศิลปะและผู้ที่ชื่นชอบคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ห้ามพลาด กับนิทรรศการ “YIMU ART EXHIBITION” จัดแสดงให้ทุกคนได้ชื่นชมความน่ารัก ตื่นตาตื่นใจกับความอลังการ และสนุกกับการถ่ายภาพกับคาแรกเตอร์ซิกเนเจอร์ยอดฮิต ฟรี! ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 สิงหาคม 2568 ณ ไอคอนสยาม พาร์ค ชั้น 2, โถงระเบียง ชั้น 2 ไอคอนสยาม และ Arts Way ชั้น M ไอคอนสยาม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: ICONSIAM

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
 นักเดินทางผู้ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย: รายงานล่าสุดเผยการเปลี่ยนแปลงเทรนด์การท่องเที่ยวหรูในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 นักเดินทางผู้ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย: รายงานล่าสุดเผยการเปลี่ยนแปลงเทรนด์การท่องเที่ยวหรูในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

0 0
Read Time:9 Minute, 9 Second

 The Luxury Group by Marriott International เปิดตัวรายงาน ‘The Intentional Traveler’ เผยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงใน 7 ตลาดทั่วเอเชียแปซิฟิก

สิงคโปร์, 2 กรกฎาคม 2568 – ยุคใหม่ของการท่องเที่ยวระดับลักชัวรีกำลังก่อตัวขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยมีจุดเด่นคือการมีเป้าหมายที่ชัดเจน การปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างลึกซึ้ง จากผลการศึกษาล่าสุดโดย ลักชัวรี กรุ๊ป โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (The Luxury Group by Marriott International) พบว่ากลุ่มนักเดินทางผู้มีความมั่งคั่งสูง (HNW) ในภูมิภาคนี้กำลังปรับมุมมองที่มีต่อวิธีการเดินทาง สถานที่ และเหตุผลในการเดินทางใหม่ โดยให้ความสำคัญกับสุขภาวะ ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ คุณค่าทางอารมณ์ความรู้สึก และการออกแบบที่มีเป้าหมาย มากกว่าเรื่องปริมาณหรือความหรูหราเกินจำเป็น

รายงานฉบับใหม่นี้ได้สำรวจความคิดเห็นของนักเดินทางผู้มีฐานะมั่งคั่งจำนวน 1,750 คนจาก 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศไทย โดยเผยให้เห็นมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวแบบลักชัวรีที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง การวางแผนการเดินทางอย่างแม่นยำมากขึ้น และความคาดหวังที่สูงขึ้นจากทั้งแบรนด์และประสบการณ์ที่ได้รับ

The Intentional Traveler

นักเดินทางสายลักชัวรีในปัจจุบันมีความตั้งใจและจุดมุ่งหมายชัดเจนมากกว่าที่เคย” โอริออล มอนทัล รองประธานฝ่ายลักชัวรี่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “พวกเขาแสวงหาการเดินทางที่สอดคล้องกับค่านิยมของตนเอง ส่งเสริมสุขภาวะ และตอบโจทย์นิยามการใช้ชีวิตของตนแบบลึกซึ้ง สำหรับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล นี่หมายถึงโอกาสในการปรับโฉมบริการระดับลักชัวรีไปสู่สิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่า พิถีพิถันยิ่งกว่า และเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกมากยิ่งขึ้น”

การสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมเป็นหัวใจหลักของการเดินทาง
สุขภาวะ (Wellbeing) ได้กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของการท่องเที่ยวแบบลักชัวรี โดยในปี 2568 นักเดินทางถึง 90% ระบุว่า “ประสบการณ์ด้านการดูแลส่งเสริมสุขภาพ” เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจจองที่พัก เพิ่มขึ้นจาก 80% ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวสายลักชัวรีกำลังเปิดรับประสบการณ์ด้านสุขภาวะแบบองค์รวมที่มากกว่าโปรแกรมสปาแบบดั้งเดิม ตั้งแต่การบำบัดด้วยธรรมชาติ (forest immersion) โปรแกรมโภชนาการ การบำบัดด้วยเสียง (sound healing) ไปจนถึงโปรแกรมที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ (sleep therapy) เอเชียยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งสำหรับการเดินทางเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ (wellness journey) 67% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเดินทางมายังเอเชีย และในจำนวนนี้มีถึง 26% มีแผนจะเดินทางเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมดูแลสุขภาพหรือสปารีทรีตโดยเฉพาะ

Venture Travelists

ใช้จ่ายมากขึ้น คาดหวังมากขึ้น
นักท่องเที่ยวสายลักชัวรีในปัจจุบันวางแผนการเดินทางด้วยความมั่นใจและความพิถีพิถัน โดย 72% มีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ในปีต่อไป แนวโน้มการเติบโตนี้นำโดยนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย (85%) อินโดนีเซีย (81%) และสิงคโปร์ (80%) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างชัดเจนในการลงทุนเพื่อประสบการณ์ที่เหนือระดับ ในบรรดาประเภทการเดินทางทั้งหมด การเดินทางเป็นครอบครัวโดดเด่นที่สุดในแง่ของความเต็มใจที่จะใช้จ่าย โดย 47% ของนักเดินทางผู้มีกำลังซื้อสูงยินดีที่จะทุ่มงบประมาณมากที่สุดเมื่อต้องเดินทางร่วมกับสมาชิกในครอบครัว

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในแบรนด์เพิ่มสูงขึ้น แบรนด์โรงแรมหรูที่เป็นที่รู้จักได้รับความนิยมมากกว่าวิลล่าหรือที่พักอิสระ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในแง่ของมาตรฐานที่ไว้วางใจได้ ประสบการณ์ที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน และการบริการที่เหนือระดับ

กลับมาเยือนที่ที่คุ้นเคย เสริมด้วยเส้นทางท่องเที่ยวสุดหรูใหม่ ๆ
93% ของนักเดินทางผู้มีความมั่งคั่งสูงในภูมิภาคนี้ระบุว่าพวกเขาชื่นชอบการกลับไปยังจุดหมายปลายทางที่เคยประทับใจมาแล้ว ขณะที่ 89% กล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะกลับไปยังสถานที่ที่มีความผูกพันทางใจมากเป็นพิเศษ การเดินทางเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “การกลับไปซ้ำ” แต่เป็นการเดินทางที่มีเป้าหมาย นั่นคือ เพื่อสัมผัสจุดหมายปลายทางในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น หรือย้อนรำลึกช่วงเวลาพิเศษร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง

ในขณะเดียวกัน แม้ว่านักเดินทางผู้มีความมั่งคั่งสูงจำนวนมากยังคงนิยมจุดหมายปลายทางที่คุ้นเคย แต่ตลาดใหม่ที่เดินทางสะดวกในระดับภูมิภาคก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บังกลาเทศ (26%) นิวซีแลนด์ (24%) และกัมพูชา (23%) กำลังกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในปี 2568 โดยขยับขึ้นมาติดใน 10 อันดับจุดหมายปลายทางที่มีการวางแผนเดินทางมากที่สุด ควบคู่ไปกับจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และจีนแผ่นดินใหญ่

การเติบโตของแผนการเดินทางที่มีจุดมุ่งหมาย
นักเดินทางสายลักชัวรีในปัจจุบันจองทริปน้อยลงแต่เน้นความลึกซึ้งและความรอบคอบมากขึ้น โดยระยะเวลาพักผ่อนเฉลี่ยสำหรับทริปสั้นเพิ่มขึ้นจาก 3 คืนเป็น 4 คืน และแผนการเดินทางถูกวางไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยมักวางแผนล่วงหน้าหลายเดือน สำหรับทริปที่ยาวนานขึ้น มักจองล่วงหน้า 2-3 เดือน ขณะที่ทริปสั้นจองล่วงหน้า 1-2 เดือน นักเดินทางถึง 93% คาดหวังประสบการณ์เดินทางที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะบุคคล และ 62% วางแผนรายละเอียดทุกขั้นตอนล่วงหน้า

การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง
แม้ว่าการลิ้มรสอาหารจะยังคงเป็นแรงจูงใจอันดับต้น ๆ ของการเดินทาง แต่ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติกำลังกลายเป็นเสาหลักใหม่ของการท่องเที่ยวแบบลักชัวรี การพักผ่อนในชนบทกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดย 28% ของนักเดินทางผู้มีความมั่งคั่งสูงวางแผนจะไปพักผ่อนในพื้นที่ชนบท เพิ่มขึ้นจาก 19% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ 30% กำลังจองทริปซาฟารีดูสัตว์ป่า มีถึง 92% ที่ระบุว่าการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นปัจจัยสำคัญในการเดินทาง สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแนวเอาท์ดอร์แบบใกล้ชิดและมีส่วนร่วมแบบแท้จริง นอกจากนี้ นักเดินทางกลุ่มนี้ยังเป็นนักวางแผนตัวยง โดยส่วนใหญ่จองทริปยาวล่วงหน้า 2 ถึง 6 เดือน และบางส่วนจองล่วงหน้านานถึง 9 ถึง 12 เดือน

การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการเดินทาง: “แล้วเราจะไปกับใครบ้าง”
นักท่องเที่ยวผู้มีความมั่งคั่งสูงกำลังมอบนิยามใหม่ให้กับการเดินทางเป็นกลุ่ม จะเห็นได้จากรูปแบบใหม่ๆ ที่ก่อตัวขึ้นมา

i) พ่อแม่ผู้เปิดเส้นทางแห่งการเรียนรู้ (Guardian Trailsetters)
จากเดิมที่เป็นกลุ่มเฉพาะ การท่องเที่ยวของผู้ปกครองที่เดินทางกับลูกเพียงลำพังมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 24% ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี เมื่อเดินทางในฐานะผู้ปกครองเดี่ยว กลุ่มนี้มักเลือกแผนการท่องเที่ยวที่เน้นประสบการณ์ที่เติมเต็มและมีคุณค่าให้กับลูก ๆ เช่น กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา (41%) ทริปเพื่อการเรียนรู้ (38%) ตามด้วยซาฟารีหรือกิจกรรมผจญภัยสุดขั้ว (35% เท่ากันทั้งสองประเภท)

ii) นักสำรวจผู้มีเป้าหมาย (Impact Explorers)
นักเดินทาง Gen Z กำลังมุ่งความสนใจไปยังจุดหมายปลายทางอย่างออสเตรเลีย ศรีลังกา และไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชอบในธรรมชาติ วัฒนธรรม และการผจญภัย แตกต่างจากภาพจำของนักท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนทั่วไป คนรุ่นนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยการได้รับประสบการณ์จริงและมีจุดมุ่งหมาย โดย 47% ให้ความสำคัญกับการใกล้ชิดธรรมชาติ 45% ต้องการได้เจอสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด และ 43% สนใจวันหยุดที่ได้ใช้เวลาไปกับการเล่นกีฬา มีถึง 31% ที่กำลังวางแผนเดินทางคนเดียว เพราะเป็นทางเลือกที่ให้อิสระเป็นตัวของตัวเองและเอื้อให้เกิดการค้นพบตัวเอง อย่างไรก็ตาม การเดินทางเป็นกลุ่มเล็กที่มีสมาชิกไม่เกินห้าคนยังคงเป็นรูปแบบที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุดในการสำรวจโลก

iii) นักเดินทางผู้แสวงหาโอกาสทางธุรกิจ (Venture Travelist)
กลุ่ม Venture Travelist ซึ่งได้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในรายงาน New Luxe Landscapes ปี 2567 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568 โดยปัจจุบัน 86% ของนักเดินทางผู้มีความมั่งคั่งสูงระบุว่าพวกเขามักมองหาโอกาสทางธุรกิจหรือการลงทุนระหว่างการเดินทาง เพิ่มขึ้นจาก 69% ในปีที่ผ่านมา

การเดินทางประเภท “Bleisure” เติบโตในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย นักเดินทางชาวไทยมีแผนจะเดินทางเพื่อพักผ่อนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค (5 ทริปในประเทศ และ 3 ทริปต่างประเทศ เทียบกับค่าเฉลี่ย 6 ทริปในประเทศ และ 4 ทริปต่างประเทศ) ขณะที่การเดินทางประเภท “bleisure” (การเดินทางที่ผสมผสานระหว่างการเดินทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อน) กำลังได้รับความนิยมอย่างในประเทศไทย โดย 90% เป็นการเดินทางต่างประเทศ และ 95% เป็นการเดินทางภายในประเทศ ทั้งนี้การเดินทางแบบครอบครัวใหญ่ในประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วน 40% ซึ่งมากกว่าตลาดเพื่อนบ้านอย่างมีนัยสำคัญ โดยรูปแบบวันหยุดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและบันเทิง 36% การพักผ่อนในชนบท 32% และการลาพักระยะยาว (sabbatical) 32% รวมไปถึงรูปแบบที่โดดเด่นอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค เช่น การท่องเที่ยวในเมืองระยะสั้นและการพักผ่อนวันหยุดริมชายหาด

จุดหมายปลายทางนอกกระแสหลักกำลังได้รับความนิยมจากชาวไทยผู้มีความมั่งคั่งสูง
แม้การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง จุดหมายปลายทางต่างประเทศที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง, จีน โดยบังกลาเทศและบรูไนกำลังขึ้นสู่ท็อป 5 ของจุดหมายปลายทางในแผนการเดินทางในปีหน้า สะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน “สถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนไปหรือไม่ได้อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวหลัก” (off-the-beaten-path) ยังคงติดอันดับจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้มีความมั่งคั่งสูง

นักท่องเที่ยวชาวไทยสายลักชัวรี คาดหวังประสบการณ์ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะ
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสายลักชัวรี 97% ต้องการให้ทุกรายละเอียดของทริปถูกปรับให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของตนเอง โดย 60% ชื่นชอบโรงแรมลักชัวรีขนาดใหญ่มากกว่า ขณะที่ 41% สนุกกับการวางแผนทริปด้วยตนเอง และต่างคาดหวังประสบการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ การรับประทานอาหารถือเป็นความสำคัญอันดับต้น โดย 60% มองว่าไฟน์ไดนิ่งคือคืนในอุดมคติ และ 39% ยินดีจ่ายให้กับร้านอาหารระดับมิชลิน รีวิวดี ๆ (57%) รางวัลและประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟ (อย่างละ 51%) คือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจมากที่สุด

“สุขภาพ” และ “ความยั่งยืน” เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
สิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ของนักท่องเที่ยวชาวไทย คือ สุขภาพและความยั่งยืน พวกเขาคาดหวังจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลาย (98%) สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพแบบครบวงจร (97%) และแนวทางการดำเนินงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในโรงแรมระดับลักชักรี (97%) สระว่ายน้ำและโปรแกรมช่วยให้นอนหลับสบาย (96%) ซึ่งถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณค่ามากที่สุด โดย 62% มีแนวโน้มจะจองบริการสปาในทริปของตน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
ไอคอนสยาม จัดมหกรรมโคมไฟยู่หยวนจากเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกในไทย “Yuyuan Lantern Festival 2025” สานสายใยมิตรภาพ เฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน

ไอคอนสยาม จัดมหกรรมโคมไฟยู่หยวนจากเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกในไทย “Yuyuan Lantern Festival 2025” สานสายใยมิตรภาพ เฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน

0 0
Read Time:3 Minute, 39 Second

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับบริษัท เซี่ยงไฮ้ ยู่หยวน ทัวริสต์มาร์ท กรุ๊ป (Shanghai Yuyuan Tourist Mart Group Co., Ltd.) ผู้จัดเทศกาลโคมไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และ อินเตอร์สเต็ปส์ (Intersteps) จัด “มหกรรมแสดงศิลปะโคมไฟยู่หยวน ชุด
จิตวิญญาณแห่งภูผาและมหาสมุทรและเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-จีน – Spirit of Mountains and Seas · Yuyuan Lantern Festival and 2025 China-Thailand Culture Month” มหกรรมโคมไฟยู่หยวนเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย เปิดประสบการณ์ให้ประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสความงดงามทรงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม

โดยพิธีเปิดงาน “Spirit of Mountains and Seas · Yuyuan Lantern Festival and 2025 China-Thailand Culture Month” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ได้รับเกียรติจากคุณสื่อ จงจวิ้น เลขาธิการศูนย์อาเซียน-จีน,คุณฉาง ยู่ เหมิง อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน, คุณพาสินี ลิ่มอติบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด, คุณหวง เจิ้น ประธานกรรมการ บริษัท ยู่หยวน อิ้งค์, ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจไทย-จีน, คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คุณรักชนก โคจรานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และคุณอู๋ เสี่ยวคัง รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเฉลิมฉลองให้กับวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-จีน อย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นถึงสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ

มหกรรมโคมไฟยู่หยวนจากเซี่ยงไฮ้ จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ ไอคอนสยาม ไม่เพียงสะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ยังทำให้เห็นถึงพลังของศิลปะวัฒนธรรมที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนจากต่างเชื้อชาติให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของไอคอนสยาม ในฐานะ Global Experiential Destination จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์ระดับโลก มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือทางศิลปะและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษด้านศิลปะวัฒนธรรมให้กับผู้มาเยือนทุกคน

ทั้งนี้เทศกาลโคมไฟโคมไฟยู่หยวนจากนครเซี่ยงไฮ้ เป็นเทศกาลโคมไฟที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เทศกาลโคมไฟอันงดงามและยิ่งใหญ่ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้กับวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย โดยจัดแสดงในธีม “จิตวิญญาณแห่งภูผาและมหาสมุทร” (Spirit of Mountains and Seas) ซึ่งนำแรงบันดาลใจจากคัมภีร์โบราณ “ซานไห่จิง” หรือ “คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล” มารวมเข้ากับแนวคิด “เกาะแห่งเจ้าพระยา” จำลองเป็นดินแดนมหัศจรรย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ดูราวกับเป็นเกาะลอยน้ำซึ่งประดับประดาด้วยแสงสีหลากหลายของโคมไฟร่วมสมัย ผสานเทคนิคแสง เงา และอินเตอร์แอคทีฟ ให้โคมไฟแต่ละกลุ่มเปรียบเสมือนเกาะลึกลับที่กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ โดยมีสิ่งมีชีวิตจากคัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเลรอคอยให้ผู้ชมได้เข้าไปสำรวจและค้นพบประสบการณ์ใหม่อันตระการตาและน่าประทับใจในรูปแบบ “Immersive Art” นับเป็นการนำเสนอภาพแห่งมิตรภาพอันงดงามระหว่างจีนกับไทยในรูปแบบที่ชวนตื่นตาตื่นใจ

 

นอกจากความตระการตาของมหกรรมโคมไฟ ภายในงานยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรม ตลาดสินค้าท้องถิ่น สัปดาห์วัฒนธรรมในธีมต่างๆ รวมถึงนิทรรศการศิลปะและแสงสี ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางศิลปะ วัฒนธรรม และอาหาร รวมทั้งธุรกิจระหว่างองประเทศอย่างลึกซึ้ง ท่ามกลางแสงสีของโคมไฟที่สะท้อนแสงแห่งมิตรภาพไทย-จีนสู่สายตาทั่วโลก

“มหกรรมแสดงศิลปะโคมไฟยู่หยวน ชุด จิตวิญญาณแห่งภูผาและมหาสมุทรและเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์การทูตไทย-จีน – Spirit of Mountains and Seas · Yuyuan Lantern Festival and 2025 China-Thailand Culture Month” เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าชมฟรี (ยกเว้นโซนนิทรรศการพิเศษ บัตรเข้าชมราคา 200 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: ICONSIAM
#YuyuanLanternFestival2025 #YuyuanAtICONSIAM #50ปีไทยจีน
#มหกรรมโคมไฟจีนยักษ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา #ICONSIAM

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %