“แซมโซไนท์” ชวนร่วมเดินทางไปด้วยกันในการเดินทางสุดพิเศษ ‘Destination Samsonite: Voyaging Through Time’ ผ่านนิทรรศการ
แซมโซไนท์ขอต้อนรับเข้าสู่ “Destination Samsonite: Voyaging Through Time”
การเดินทางสู่ความรุ่มรวยของมรดกทางวัฒนธรรมและการค้นหานวัตกรรมแห่งอนาคตของแซมโซไนท์
แซมโซไนท์ แบรนด์กระเป๋าเดินทางชั้นนำระดับโลก พร้อมพาทุกคนร่วมเดินทางไปด้วยกันในการเดินทางสุดพิเศษ ‘Destination Samsonite: Voyaging Through Time’ ผ่านนิทรรศการสำหรับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ที่ถูกจัดขึ้นในสิงคโปร์ เพื่อเฉลิมฉลอง 113 ปี แห่งคุณภาพและนวัตกรรม
ในงานเปิดตัวนิทรรศการที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังชาวเอเชียเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Lee Dong Wook แบรนด์แอมบาสซาเดอร์แซมโซไนท์เกาหลี, Jeffrey Ngai แบรนด์แอมบาสซาเดอร์แซมโซไนท์ฮ่องกง, Kiwi Lee Han แบรนด์แอมบาสซาเดอร์แซมโซไนท์ไต้หวัน, Ayaka Miyoshi นักแสดงสาวชื่อดังจากญี่ปุ่น, Heart Evangelista และ Pia Wurtzbach สองเซเลบริตี้จากฟิลิปปินส์ และGlenn Young เซเลบริตี้จากสิงคโปร์
ด้วยสาขาในกว่า 130 ประเทศและตำนานที่สืบทอดกันมากว่าศตวรรษ แซมโซไนท์ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์กระเป๋าเดินทางคู่ใจของนักเดินทาง ที่ผสมผสานแฟชั่นให้เข้ากับฟังก์ชั่นได้อย่างลงตัว ภายในงานนิทรรศการ ได้จัดแสดงผลงานออกแบบอันทันสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของแซมโซไนท์ในการพัฒนานวัตกรรม โดยผ่านทางการศึกษาวิจัยและการทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ รวมถึงโซลูชั่นการเดินทางที่ชาญฉลาด ส่งผลให้แซมโซไนท์กลายเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่สายเทค
การแสดงความเคารพต่อมรดกทางวัฒนธรรม
ด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาแบรนด์ นวัตกรรมและความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่ทำให้แซมโซไนท์ยังคงความร่วมสมัยและก้าวทันเวลาที่ล่วงผ่าน นิทรรศการ ‘Destination Samsonite’ คือการแสดงความเคารพต่อมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของแบรนด์ ภายในงานจัดแสดงวิวัฒนาการของแซมโซไนท์ ย้อนกลับไปสมัยทศวรรษ 1930 การเปลี่ยนผ่านจากผู้ผลิตกระเป๋าเดินทาง มาสู่ผู้บุกเบิกนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การเดินทางอย่างชาญฉลาด เปรียบเสมือนแคปซูลกาลเวลาของแซมโซไนท์ โดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์ระดับไอคอน ทั้งรุ่น Streamlite, Silhouette, Oyster และ 4-Wheel Spinner ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ จวบจนถึงผลิตภัณฑ์ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นซิกเนเจอร์อย่าง C-Lite, Proxis และ Evoa ซึ่งทุกรุ่นเป็นบทพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงการเดินทางของแซมโซไนท์ในการคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ความมุ่งมั่นในคุณภาพ
หนึ่งในรากฐานสำคัญของความสำเร็จของแซมโซไนท์คือความทุ่มเทที่อุทิศให้กับการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นยอด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นได้รับการออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทาน แม้ในการเดินทางที่ยากลำบาก
งานฝีมืออันโดดเด่นและปรัชญาการออกแบบที่อยู่เบื้องหลังกระเป๋าเดินทางทุกใบของแซมโซไนท์ถูกจัดแสดงผ่าน 3 โซนที่แตกต่างกันไปในแต่ละธีม เน้นย้ำถึงความทุ่มเทแรงกายแรงในในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่จะคงทนเหนือกาลเวลา แต่ละโซนสื่อถึงคุณสมบัติหลักแต่ละคุณสมบัติของกระเป๋าเดินทางแซมโซไนท์ นั่นคือ ความเบา ความทนทาน และส่วนประกอบชั้นเยี่ยม ผ่านการนำเสนอในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ยิ่งไปกว่านั้น ภายในนิทรรศการยังได้แสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มของแบรนด์ในการนำวัสดุรีไซเคิลมาผลิตเป็นองค์ประกอบของกระเป๋าเดินทางแบบผ้า รวมถึงส่วนของซับในด้านในกระเป๋าเดินทาง
Zero Gravity – สัมผัสประสบการณ์ความเบาของกระเป๋ารุ่น Attrix และ C-lite ที่ทำจากวัสดุ Roxkin™ และ Curv® ตามลำดับ ซึ่งถูกแขวนไว้เพื่อแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักที่เบาของกระเป๋าทั้ง 2 รุ่น
Discover Durability – วงล้อขนาดใหญ่สะดุดตาที่มีกระเป๋าเดินทางอยู่ด้านใน เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานพิสูจน์ความแข็งแรงทนทานของกระเป๋าผ่านการหมุนวงล้อ
Abstract Terrains – โซนนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ทดสอบความทนทานและความลื่นไหลของล้อกระเป๋าในพื้นผิวที่หลากหลาย พร้อมทั้งฉายวิดีโอเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าชม
วิสัยทัศน์สู่อนาคต
ภายในงานยังมีการเปิดตัวกระเป๋าเดินทางรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น ประกอบด้วย Evoa Z, SBL Major-Lite และ New Streamlite ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในด้านคุณภาพและสไตล์
วิวัฒนาการของ Evoa กระเป๋าเดินทางระดับไอคอนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแซมโซไนท์ กลายมาเป็น Evoa Z ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด พร้อมรวมดีเอ็นเอความเป็นแซมโซไนท์ได้อย่างครบถ้วน นั่นคือ ความมินิมอล ความเป็นไอคอนิก และความทันสมัย
SBL Major-Lite กระเป๋าเดินทางสำหรับนักเดินทางรุ่นใหม่ เปลี่ยนนิยามของคำว่าอเนกประสงค์ ด้วยรูปทรงโฉบเฉี่ยวและโซลูชั่นการเดินทางอัจฉริยะ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่ายด้วยวัสดุอย่าง Curv®
New Streamlite คอลเลกชั่นกระเป๋าเดินทางลิมิเต็ดรุ่นนี้คือการหลอมรวมกันของสไตล์สุดคลาสสิคและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่น Streamlite ในทศวรรษ 1940 ของแซมโซไนท์นั่นเอง
Subrata Dutta – ประธานภูมิภาค APAC และตะวันออกกลางของแซมโซไนท์ กล่าวว่า “ด้วยจิตวิญญาณของแซมโซไนท์นั้น เราเริ่มต้นการเดินทางนี้ผ่านมรดกทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมของเรา สิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของธุรกิจและเทคโนโลยีระดับโลก เราจึงเชื่อมั่นว่าสถานที่แห่งนี้จะสามารถสะท้อนเป้าหมายของเราในการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการเดินทางสำหรับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลกได้ดีที่สุด เราใคร่ขอเชิญชวนนักเดินทางทุกคนมาร่วมเดินทางไปกับเราในการเดินทางครั้งสำคัญครั้งนี้ที่ Destination Samsonite ที่ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมผสานกับดีไซน์ล้ำยุค และสไตล์ผสานกับฟังก์ชั่น เพื่อมอบคำนิยามใหม่ให้กับศิลปะการเดินทาง”
Kim HeeJeong – Senior Director for Marketing and Brand Strategy ของแซมโซไนท์ เอเชีย กล่าวเสริมว่า “เราเชื่อมั่นในการสร้างความทรงจำ เรื่องราว และประสบการณ์ที่จะอยู่คู่กับนักเดินทางในการเดินทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย เราพร้อมทุ่มเทเพื่อให้ทุกย่างก้าวของการผจญภัยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ผ่านทางการออกแบบที่ผ่านการคิดค้นมาเป็นอย่างดี นวัตกรรม และพันธสัญญาด้านความยั่งยืน”