Recent Posts

เปิดแล้ว งานมหกรรมพลังงานยั่งยืนแห่งเอเชีย “ASIA Sustainable Energy Week 2025” หนุนไทยก้าวสู่ศูนย์กลางพลังงานสะอาดของภูมิภาค

เปิดแล้ว งานมหกรรมพลังงานยั่งยืนแห่งเอเชีย “ASIA Sustainable Energy Week 2025” หนุนไทยก้าวสู่ศูนย์กลางพลังงานสะอาดของภูมิภาค

0 0
Read Time:3 Minute, 34 Second

อินฟอร์มา มาเก็ตส์ พร้อมด้วยกระทรวงพลังงาน และภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วนร่วมกันเปิดงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานยั่งยืนแห่งเอเชีย เวทีที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน และเป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดระดับภูมิภาค โดยได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ องค์กร และเครือข่ายด้านพลังงานจากทั่วโลกไว้ในเวทีเดียว โดยมีเป้าหมายร่วมกันเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับบทบาทของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมพลังงานสะอาดของภูมิภาค

ในยุคแห่งความท้าทายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมขับเคลื่อน งาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) คือเวทีระดับภูมิภาคที่รวมพลังความร่วมมือ นำเสนอแนวคิด นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อเร่งสู่อนาคตพลังงานที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการลดการปล่อยคาร์บอนและขับเคลื่อนสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน ประเทศไทยเองก็กำลังเดินหน้าอย่างจริงจัง ภายใต้ยุทธศาสตร์พลังงานชาติ (National Energy Plan) ที่กระทรวงพลังงานได้วางไว้ เพื่อรองรับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานให้ความสำคัญกับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับประสิทธิภาพพลังงาน และการส่งเสริมบทบาทของทุกภาคส่วนในสังคม งาน ASIA Sustainable Energy Week ถือเป็นเวทีที่มีความสำคัญในการสนับสนุนนโยบายดังกล่าว เพราะเปิดโอกาสให้ภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแนวคิด องค์ความรู้ และต่อยอดความร่วมมือ โดยปีนี้ กระทรวงพลังงานเข้าร่วมจัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอนโยบายพลังงานที่สำคัญ พร้อมเปิดเวทีให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม เราเชื่อมั่นว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของไทยสู่มาตรฐานสากลได้อย่างเป็นรูปธรรม


นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า โลกกำลังเร่งเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนอย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการงานจัดแสดงสินค้า และกิจกรรมเจรจาธุรกิจระดับภูมิภาค เราไม่ได้มองเพียงมิติของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน กับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ งาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 ไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้า แต่คือแพลตฟอร์มที่รวมองค์ความรู้ เทคโนโลยี และผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมพลังงานไว้ในเวทีเดียว พร้อมการรีแบรนด์เพื่อยกระดับสู่เวทีระดับเอเชีย ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Empowering Digital Transformation in Sustainable Energy Towards Net Zero” โดยมีจุดเด่นจากความหลากหลายของผู้แสดงสินค้า ครอบคลุมทั้งด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงาน และระบบกักเก็บพลังงาน จากกว่า 1,500 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ ABB, ANTAI SOLAR, ANDSOLAR, ATESS, BYD, DELTA, HITACHI ENERGY, HUAWEI และ SUNHOME รวมถึงพาวิเลียนนานาชาติอย่าง จีน ฟินแลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร ภายในงานยังจัดให้มีการประชุมและสัมมนากว่า 200 หัวข้อจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ครอบคลุมทุกมิติของเทคโนโลยี อาทิ REA Conference, Thailand ConneXt, ASIA Urban Energy Assembly, International Energy Storage Forum, Hydrogen Forum, SEA SAF Forum เป็นต้น พร้อมกิจกรรมไฮไลต์อย่าง Data Center and Cloud District, Hydrogen District, Startups Alley, Carbon Free Valley และ InnoTech Stage โดยปีนี้เราคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 32,000 คน และเราเชื่อมั่นว่างาน ASEW จะเป็นศูนย์กลางในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระบบนิเวศพลังงานสะอาดของเอเชีย พร้อมกันนี้ยังจัดร่วมกับงาน  MobilityTech Asia – Bangkok (MTAB) 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมชั้นนำของภูมิภาค ด้านการขนส่งแห่งอนาคตและยานยนต์อัจฉริยะ ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางด้านพลังงานยั่งยืนและเทคโนโลยีแห่งอนาคตของเอเชียอย่างแท้จริง

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสะอาดของเอเชีย ในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 ตั้งแต่วันนี้ -4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.asew-expo.com

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box
คอนเสิร์ตการกุศล “เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” ครูเพลง ว.วัชญาน์ รายได้มอบพระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด

คอนเสิร์ตการกุศล “เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” ครูเพลง ว.วัชญาน์ รายได้มอบพระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด

0 0
Read Time:4 Minute, 0 Second

แถลงข่าวเสร็จสิ้นไปแล้วพร้อมกับบรรยากาศความอบอุ่น และอิ่มบุญ สำหรับ คอนเสิร์ตการกุศล “เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” ครูเพลง ว.วัชญาน์ รายได้มอบพระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด ณ ห้องอาหาร Manito Pizza รามคำแหง 18

จากจุดเริ่มต้นของลูกศิษย์ ครู ว.วัชญาน์ ได้แก่ อุษา แก้วมณี ร่วมกับ หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ และเพื่อนพ้องน้องพี่ลูกศิษย์ ครู ว วัชญาน์ นักแต่งเพลงผู้ล่วงลับ เจ้าของเพลง “ไฟเสน่หา”, “สายเจียงฮาย”, ขอสูมาเต๊อะเจ้า” ฯลฯ

มุ่งหวังจะจัดคอนเสิร์ตการกุศลเพื่ออุทิศบุญแด่บรมครูผู้ล่วงลับ และเป็นการเชิดชูเกียรติ จึงเป็นที่มาของคอนเสิร์ต การกุศล ” เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” เปิดแสดงในวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 13:00 – 16:30 น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ

คอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” เพื่อรำลึกครูเพลงผู้สร้างตำนานบทเพลงไทย ว.วัชญาน์ ขับร้องโดยศิลปิน ดร.วินัย พันธุรักษ์ (ศิลปินแห่งชาติ), สมศรี ม่วงศรเขียว, โฉมฉาย อรุณฉาย, อุมาพร บัวพึ่ง, จิตติมา เจือใจ, ศันสนีย์ นาคพงษ์, เจินเจิน บุญสูงเนิน, พิมพ์โพยม เรืองโรจน์, คณิตตา จิตต์เจริญ, จรวยพร จิตตรีญาติ, ประภาภรณ์ สังข์สุวรรณ, ยืนชนม์ สมบัติเทพ, พิมพ์ใจ พรหมมาลี, ภมร พรสุเทพ, หลินหลิน อินไทยแลนด์, อ้อม หัสพงศ์, ชูใจ เพชรา, วิภาส รวิภาส, อภิญญา เจริญวงศ์, สปาย ภาสภรณ์ ฯลฯ

หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดคอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง เพื่อรำลึกครู ว.วัชญาน์ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้เธอเข้าสู่วงการเพลง และต่อเนื่องสู่ภาคธุรกิจอาหารเสริม และเครื่องประทินโฉม งานคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังเป็นดารรวบรวมลูกศิษย์ ครู ว.วัชญาน์ หลายรุ่น อาทิ ศันสนีย์ นาคพงศ์, อุษา แก้วมณี และอีกหลายท่านที่จะมาร่วมอุทิศส่วนกุศลแด่บรมครู

ก่อนที่ อุษา แก้วมณี และ หลินหลิน อิน ไทยแลนด์ จะรับดอกไม้กำลังใจจากคุณกัณทิมา อุชุภาพ นายกสโมสรไลออนส์ หอวัง ด้าน อุษา แก้วมณี ผู้ถือลิขสิทธิ์เพลงครู ว วัชญาน์ ยังกล่าวเสริมถึงรายได้จัดคอนเสิร์ตจะนำไปมอบองค์กรการกุศล คือ พระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เนื่องจาก ครู ว.วัชญาน์ และตนเอง เคยผลิตรายการโทรทัศน์ “ธรรมะกับหลวงตามหาบัว” ออกอากาศทางช่อง 5 สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันวัดป่าบ้านตาด ยังคงรับรักษาพระสงฆ์อาพาธ รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย คณะผู้จัดจึงจะนำเงินไปถวายต่อไป

“คอนเสิร์ตการกุศล เพลงไทยไพเราะที่สุดในโลก คิดถึง ..และคิดถึง” บัตรราคา 1,000 /800 /500 บาท สอบถามรายละเอียด และซื้อบัตรได้ที่ : หลินหลิน โทร. 02-449-5000 , 086-901-4408 (มอส) Line : @b919 และอุษา แก้วมณี โทร. 065-996-5983 รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้พระสงฆ์อาพาธ วัดป่าบ้านคาด จ.อุดรธานี

สำหรับ ว.วัชญาน์ (บ่วย) มีชื่อจริงว่า วารุณี วิชัยพรหม นามปากกา นักประพันธ์เพลงโด่งดังมากมายโดยเฉพาะเพลง “สาวเจียงฮาย” ที่แต่งขึ้นด้วยความคิดถึงและสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเกิด ว.วัชญาน์ เกิดที่อำเภอพาน เชียงราย เข้ากรุงเทพฯ

มาเรียนกวดวิชาและเป็นเซลส์แมนไปด้วย สอบได้วุฒิมัธยมปลาย เรียนต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้งานที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ อยู่แผนกควบคุมเสียง มีโอกาสพบกับ ป. วรานนท์ นัก แต่งเพลงใหญ่ ได้เป็นดีเจรายการ “เพื่อน้อง” และ “เพื่อคุณที่รัก”

สร้างชื่อในฐานะผู้แต่ง สาวเจียงฮาย ที่มีท่อนติดหู “ไป ไปเต๊อะไปแอ่ว ไปเต๊อะไปแอ่ว จังหวัดเจียงฮาย…” แล้วยังมีผลงานอีกนับร้อยชิ้น อาทิ “บ่าฮู้-บ่าหัน”, “เสียใจ๋แต๊ว่า”, “ขอสูมาเต๊อะ”, “ยายกะตา”, “วอนเธอ”, “ผิดหวังอีกแล้ว”, “ไฟเสน่หา”, “อดีตรักดอกทองกวาว”, “รักฝังใจ ” ที่สร้างชื่อเสียง ให้ ศันสนีย์ นาคพงศ์

รวมถึงผลงานเพลงเกี่ยวกับชีวิต และเพลงธรรมะทั้งเป็นที่รู้จักในฐานะนักจัดรายการวิทยุหลากหลายแนว ทั้งรายการเด็ก การเมือง บันเทิง สังคม รวมถึงรายการโทรทัศน์ “ธรรมะกับหลวงตามหาบัว” ทางช่อง 5

วารุณี วัชญาน์ เจ้าของนามปากกา ว.วัชญาน์ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 ม.ค 2562 ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.จุฬาลงกรณ์เกือบ 1 ปี สิริอายุ 68 ปี

#วารุณีวัชญาน์ #ว_วัชญาน์ #สาวเจียงฮาย #นักประพันธ์ #นักจัดรายการวิทยุ

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box
ผู้ว่าการ ททท. พบปะผู้ประกอบการ 3 ย่านการค้า เฟื่องนคร ทรงวาด และบรรทัดทอง มุ่งเสริมการตลาดแนวคิด “Experience Tourism” ช่วงกันยายน 2568 นี้

ผู้ว่าการ ททท. พบปะผู้ประกอบการ 3 ย่านการค้า เฟื่องนคร ทรงวาด และบรรทัดทอง มุ่งเสริมการตลาดแนวคิด “Experience Tourism” ช่วงกันยายน 2568 นี้

0 0
Read Time:2 Minute, 15 Second

วันนี้ (28 มิถุนายน 2568) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ททท. เดินทางพบปะกับคณะผู้ประกอบการ-ผู้ค้า ใน 3 ย่านท่องเที่ยวยุคใหม่ทั้งย่านเพื่องนคร ทรงวาด และบรรทัดทอง พร้อมร่วมเปิดประสบการณ์สุดเข้มข้น กับ Squid Game Season 3  GOGOVA ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เสมือนได้หลุดเข้าไปในโลกซีรีส์ดัง สะท้อนศักยภาพ Soft Power ไทยที่สร้างสรรค์และดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก!

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้พบปะหารือกับ คุณเนย ทิพย์คนึง กุลลาวัณย์ ผู้ก่อตั้ง Yakthai Poshtel and Yakthai studio คุณอุ๊ย เกียรติวัฒน์ ศรีจันทร์วันเพ็ญ ประธานกลุ่ม Made in Song Wat และผู้ก่อตั้ง PLAY Art House นอกจากนี้ได้หารือกับผู้ประกอบการร้านอาหารย่านบรรทัดทอง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตปทุมวัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้อำนวยการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์ โดยรับทราบถึงความท้าทายด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากภาวะเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ด้านลบของย่านโดยเฉพาะราคาสินค้าสูงเกินจริง รวมถึงปัญหาต้นทุนสูงจากค่าเช่า และวัตถุดิบ ซึ่งส่งผลต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวซ้ำ (Repeater) โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย


และจากการนำคณะเดินสำรวจพื้นที่ พบว่าย่านเฟื่องนคร เป็นหนึ่งในย่านประวัติศาสตร์และศิลปะ ด้วยสถาปัตยกรรมไทย-ยุโรปที่สวยงาม ที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมอาคารเก่า หอศิลป์ และร้านงานอาร์ท ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น กิจกรรมสันทนาการ นิทรรศการ เวิร์กช็อป และตลาดศิลปะ


ส่วนย่านทรงวาด ยังเป็นย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งอัตลักษณ์จีนโบราณที่โดดเด่น เช่น ตึกแถวเก่า ซุ้มประตูจีน และร้านขนมเปี๊ยะดั้งเดิมเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมและถ่ายภาพ ด้วยการเดินชมย่านทรงวาดและทำกิจกรรมเวิร์กช็อปงานคราฟ์ทเพื่อส่งเสริมการใช้จ่าย

นอกจากนั้นแล้ว ย่านบรรทัดทอง เป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่แนวอาร์ต และสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยม ซึ่งสามารถผลักดันสู่ – Bangkok Night Street Food หรือ Bangkok Night Life ส่งเสริมการเดินทางของกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานสอดคล้อง “Night Economy” ของรัฐบาล


ด้วยศักยภาพของทั้ง 3 ย่านการค้าดังกล่าว ททท. จึงได้เตรียมแผนการร้อยเรียงศักยภาพของย่าน โดยการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงกันยายน 2568 พื้นพลิกฟื้นบรรยากาศการค้าของกรุงเทพฯ ให้กลับมาคึกคักและเป็นที่สนในของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป

#Amazingthailand
#บรรทัดทอง  #ทรงวาด #เฟื่องนคร
#AmazingExperiences
#GOGOVA  #SquidGameSeason3 #SoftPowerThailand

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box