Recent Posts

ททท.เดินหน้าชู Soft Power นำคณะทูต 5 ประเทศ สัมผัสเสน่ห์ไทย ผ่านเส้นทาง Adventure Tourism – Chiang Mai

ททท.เดินหน้าชู Soft Power นำคณะทูต 5 ประเทศ สัมผัสเสน่ห์ไทย ผ่านเส้นทาง Adventure Tourism – Chiang Mai

0 0
Read Time:3 Minute, 5 Second

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าส่งต่อ “เสน่ห์ไทย” สู่การท่องเที่ยวการทูตในเส้นทางที่ 3 Adventure Tourism – Chiang Mai นำคณะทูต 5 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี ปากีสถาน คิวบา โปรตุเกส และฮังการี ออกเดินทางภายใต้โครงการ “เที่ยวไทยกับ Diplomat 5 Must Do สุขทุกเส้นทาง” ซึ่งมุ่งใช้การท่องเที่ยวเป็นกลไกเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต สร้างความเข้าใจ และมิตรภาพที่ยั่งยืน ผ่าน Soft Power เสน่ห์ไทย เสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก โดยเส้นทางที่ 3 Adventure Tourism – Chiang Mai นำเสนอจุดแข็งของเชียงใหม่ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขา ป่าไม้ ไปจนถึงสายน้ำ ความทรงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน รวมถึงเสน่ห์วิถีชีวิตล้านนาที่มีเอกลักษณ์ ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นพลังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางในทุกฤดูกาล

โดยกิจกรรมในวันแรก Adventure & Culture

  • เรียนมวยไทยที่ Banchamek Village (บัวขาววิลเลจ)
    ฝึกทักษะศิลปะการต่อสู้แบบไทย กับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” (Must Try) พร้อมโชว์ศิลปะ
  • การแสดงมวยไทย ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา และทุ่งนา (Must Seek)
  • รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้าน Forest Cafe and Restaurant คาเฟ่-ร้านอาหาร ในบรรยากาศธรรมชาติ (Must Taste)
  • สหรีจันตา คาเฟ่ชาดีๆ ย่านสันกำแพง ที่นี่มี ชา รสชาติดี มีโรงคั่วชา ซึ่งใช้กรรมวิธีการคั่วชา สอนชงชาแบบดั้งเดิม ที่เน้นความพิถีพิถัน สุนทรียะในการดื่มชา (Must Try) การตกแต่งภายเน้นความเรียบง่าย และอบอุ่น
  • คณะทูตได้เข้าพักที่ โรงแรมยูนิมมาน โรงแรมสไตล์โมเดิร์นผสมกลิ่นอายล้านนา ใจกลางถนนนิมมานทร์เหมินทร์ และ Dinner ที่ Nara Thai Cuisine (Michelin Guide) อาหารไทยตำรับชาววัง บรรยากาศหรูผสมล้านนา (Must Taste)

ในสำหรับวันแรก คณะทูตทั้ง 5 ประเทศ ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจริงใจแบบล้านนา และร่วมทำกิจกรรมที่สนุกสนานต่าง ๆ ก่อนจะพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมรับประสบการณ์ใหม่ในวันถัดไป”


ก้าวสู่วันที่ 2 Local Market, Heritage & Relaxation

  • เริ่มต้นวันด้วย ตลาดจริงใจมาร์เก็ต จับจ่ายสินค้า งานคราฟ์ ผักผลไม้อินทรีย์ (Must Buy) และสัมผัสวิถีตลาดชุมชนแบบล้านนา (Must See)
  • มื้อกลางวัน รับประทานอาหารที่ Kiti Panit ร้านเก่าแก่สไตล์ Heritage ย้อนยุคเชียงใหม่โบราณ (Must Taste)
  • วัดโลกโมฬี วัดล้านนาเก่าแก่กว่า 500 ปี สงบร่มรื่น และทรงคุณค่า (Must Seek) ประดับตกแต่งด้วยโคมแบบล้านนาตามสีประจำวันเกิด
  • นวดไทยและสปาเพื่อสุขภาพ ที่ Zila Spa สปามาตรฐานระดับนานาชาติ การันตีด้วยรางวัล Thailand Spa Awards การนวดฟ้อนเล็บที่ผ่อนคลาย (Must Try) โดยแปลงท่านวดจากท่าฟ้อนที่อ่อนช้อย เป็นเอกลักษณ์ของล้านนา

ประสบการณ์ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้คณะทูตได้เห็นถึงมิติความหลากหลายของการท่องเที่ยวไทย แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่พร้อมต้อนรับทุกวัฒนธรรม ทุกเชื้อชาติ และพร้อมถ่ายทอดความเป็นไทยในแบบที่ไม่มีใครเหมือน ทั้งยังเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านพลังของการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงผู้คน สร้างความเข้าใจ และเติมเต็มมิตรภาพในทุกชนชาติ

ททท. หวังว่าการเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวการทูตในครั้งนี้ จะช่วยต่อยอดภาพลักษณ์ประเทศไทยในระดับนานาชาติ ตอกย้ำความเป็น “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” และสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัสเสน่ห์ไทยด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง

โครงการ เที่ยวไทยกับ Diplomat 5 Must Do สุขทุกเส้นทาง จึงไม่เพียงช่วยยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย แต่ยังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า การท่องเที่ยวสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการทูตเชิงวัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันยั่งยืน

 

#AmazingThailand
#ChiangMai
#เสน่ห์ไทย
#Mustdointhailand

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box
กกท. เปิดนโยบาย “Thailand Vision through Sports & Soft Power 2026” จุดพลังกีฬาไทยก้าวสู่เวทีโลก!

กกท. เปิดนโยบาย “Thailand Vision through Sports & Soft Power 2026” จุดพลังกีฬาไทยก้าวสู่เวทีโลก!

0 0
Read Time:9 Minute, 21 Second

    การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. โชว์วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่ระดับโลก เริ่มจาก Sports For All ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงกีฬาอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับนักกีฬาไทยด้วยการพัฒนาทักษะทั้งพื้นฐานและขั้นสูง

สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ ภายใต้ศูนย์ฝึก NTC ที่เสริมสร้างศักยภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เดินหน้านำวิทยาศาสตร์การกีฬามาบูรณาการอย่างครบวงจร ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานสนามกีฬารองรับการแข่งขันทุกระดับ เพื่อผลักดันนักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศบนเวทีนานาชาติ

พร้อมต่อยอดสู่กีฬาอาชีพการจัดบิ๊กอีเวนต์เพื่อสร้างโอกาสให้แก่นักกีฬาไทย สร้างรายได้มหาศาลสู่ประเทศ

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ณ คอนเวนชั่น ฮอลล์ พาวิลเลียน เอ โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์ กรุงเทพฯ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในงานแถลงนโยบายด้านการกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ในโอกาสนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าฯ พร้อมคณะได้เดินชมแสดงผลงานและวิสัยทัศน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 โซนประกอบด้วย โซนที่ 1 : สร้างโอกาสในการเข้าถึงการเล่นกีฬาให้กับเยาวชนและประชาชน , โซนที่ 2 : พัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา , โซนที่ 3 : การพัฒนาทักษะทางกีฬาขั้นสูง สู่ความเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศ , โซนที่ 4 : การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก และโซนที่ 5 เวิลด์ สปอร์ต อีเวนต์ – สปอร์ต ทัวร์ริซึ่ม

ก่อนชมวิดีทัศน์ถ่ายทอดแนวคิดด้านกีฬา และกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการจากวีดีทัศน์ ได้นำเสนอนโยบายแรก การสร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชน เข้าถึงการเล่นกีฬาอย่างเท่าเทียม (Sports For All) ภายใต้แนวคิด “กีฬาสร้างสุขภาพและสร้างความสุข” เนื่องจากกีฬาไม่ใช่เพียงการแข่งขัน แต่คือหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง มุ่งเน้นการพัฒนา “สนามกีฬาเพื่อทุกคน ทุกพื้นที่” ในการกระจายศูนย์กีฬาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก เท่าเทียม และปลอดภัย เพราะสนามกีฬาไม่เพียงเป็นสถานที่ออกกำลังกาย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี สร้างรอยยิ้ม และความสุข


    พร้อมกันนี้ยังได้ผลักดัน โครงการ Youth Development เพื่อสร้างโอกาสทางการกีฬา และเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้การเล่นกีฬาอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตกีฬาไทยให้ก้าวไกลต่อไป

     นโยบายที่สอง ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะที่ถูกต้องทางกีฬา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อก้าวสู่การเป็นนักกีฬาและบุคลากรกีฬาระดับชาติเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับโรงเรียนกีฬา มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ โดยการพัฒนาบุคลากรกีฬา ครูพลศึกษา ผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน และการร่วมมือกับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างเวทีการแข่งขันในทุกพื้นที่ เปิดโอกาสให้เยาวชนและท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ สร้างเครือข่ายสังคมกีฬาที่กระจายทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นด่านแรกในการผลักดันเยาวชนสู่ระดับชาติและนานาชาติ

     นโยบายที่สาม การพัฒนาทักษะทางกีฬาขั้นสูง สู่ความเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศในนามนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์ แต่ต้องอาศัยการพัฒนาร่างกาย จิตใจ และทักษะอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง โดยร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพลังที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาไทย เช่นเดียวกับผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ (NTC) ซึ่งเสมือนเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของนักกีฬาทีมชาติไทย  ด้วยสนาม อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ช่วยให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทัดเทียมกับมาตรฐานโลก เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านกีฬา พร้อมศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ตลอดจนการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อเพิ่มสมรรถภาพและศักยภาพนักกีฬา ที่ครอบคลุมองค์ประกอบความสำเร็จของนักกีฬา

ได้แก่ 1.สรีรวิทยาการกีฬา 2.เวชศาสตร์การกีฬา 3.โภชนาการกีฬา 4.จิตวิทยาการกีฬา และ 5.ชีวกลศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา นอกจากนี้ ความร่วมมือในการขับเคลื่อนโดยสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในการสร้างเวทีการแข่งขันทุกระดับ ทั้งในระดับจังหวัด ภูมิภาคและประเทศ เพราะทุกสนามคือจุดเริ่มต้นของนักกีฬาที่จะก้าวไกลสู่เวทีโลก

     นโยบายที่สี่ การพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ เพื่อร่วมแข่งขันในรายการระดับโลก เพราะกว่าจะเป็นฮีโร่ต้องแข็งแกร่งตลอดเส้นทาง การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว จุดเริ่มจากสนามเล็กในชุมชนสู่สนามแข่งขันระดับชาติ ผ่านการล้มครั้งแล้วครั้งเล่า สู่การลุกขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ ความพยายามที่ไม่หยุดยั้ง และการพัฒนาส่งเสริมทุกด้านสู่ความเป็นเลิศและระดับอาชีพ จนนักกีฬาก้าวขึ้นไปโบกธงชาติไทยบนเวทีระดับโลก และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทั้งชาติ กลายเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่เกิดจากหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้อย่างแท้จริง

      นโยบายที่ห้า ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของรายการแข่งขันกีฬาระดับโลก  การจัดเวิลด์ สปอร์ท อีเวนต์ และการส่งเสริมสปอร์ตทัวริซึ่ม เพราะกีฬาสามารถสร้างเศรษฐกิจชาติ สร้างรอยยิ้มสู่คนไทย ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างรายการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และกีฬาอาชีพในประเทศ เพื่อสร้าง Sport Eco System ที่สมบูรณ์ยั่งยืน สร้างโอกาสให้นักกีฬาไทย และสร้างรายได้สู่ประเทศด้วยการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬา และกีฬาระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น รายการ กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ , โมโต จีพี, การแข่งขันมาราธอนต่างๆ รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ ไทยแลนด์2025 ที่กำลังจะมาถึง เพื่อแสดงความสามารถของนักกีฬาไทย และโปรโมตประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านการจัดการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน


      ทั้งนี้ กกท. ได้ดำเนินการทบทวนแผนวิสาหกิจ การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2569 – 2573 ซึ่งจากปัจจัยนำเข้าที่สำคัญ ผลการดำเนินงานที่่ผ่านมา สภาพแวดล้อม นโยบายและแผนที่เกี่ยวข้อง โดย กกท. ได้กำหนดจุดยืน เป็น 3 ระยะ ดังนี้

     ปี 2569   Data Driven Organization
เป็นองค์กรที่ใช้ข้อมูลในการบริหารงานองค์กร (Data Driven Organization) รวมทั้งการให้บริการข้อมูลทางการกีฬาแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า

      ปี 2571   Facilitator
การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุน ให้กับนักกีฬาและสมาคมกีฬาเพื่อเป็นตัวกลาง ที่เชื่อมต่อระหว่างบุคคล กลุ่มงาน หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า โดยมุ่งเน้นระบบดิจิทัล และนวัตกรรม

      ปี 2573   Green and Sustainable Sports Organization
เป็นศูนย์กลางข้อมูลทางการกีฬาที่สำคัญของประเทศ ขับเคลื่อนด้วยระบบเทคโนโลยี สนับสนุนการจัดกิจกรรมกีฬาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่การเป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างยั่นยืน

      วิสัยทัศน์ของ กกท. ที่ว่าพัฒนากีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน  ซึ่งหากแบ่งเป็นประเด็นจะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องและสัมพันธ์กับนโยบายตามที่ได้นำเสนอโดย มีพันธกิจ วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ 5 ด้าน

               ประกอบด้วย SO1 การบริหารจัดการกีฬา เพื่อความเป็นความเลิศ  เป้าหมาย ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยหมายถึงอันดับในการแข่งขันกีฬาในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ และความสำเร็จของผลงานอื่นๆ โดยกิจกรรมและโครงการ การพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นระดับ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยการส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาระยะยาว เพื่อสรรหาคัดเลือกเข้าสู่ระบบการเตรียมนักกีฬาระดับนานาชาติที่มีศักยภาพ รวมทั้งการผลักดันให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด มีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งการส่งเสริมพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้นักกีฬาประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติที่สำคัญ คือ การส่งเสริมการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้ในการพัฒนานักกีฬา การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรการกีฬาให้มีศักยภาพ และการยกระดับการบริหารศูนย์ฝึกกีฬาและสนามกีฬาให้ได้มาตรฐานครบวงจร การพัฒนาระบบการเก็บตัวฝึกซ้อม การพัฒนาระบบฐานข้อมูลการกีฬาเพื่อให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

              SO2 การบริหารจัดการกีฬาอาชีพและกีฬามวย เป้าหมาย พัฒนากีฬาอาชีพให้มีมาตรฐานและศักยภาพในระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรการกีฬาอาชีพและบุคคลในวงการกีฬามวย การส่งเสริมการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพและกีฬามวยอย่างมีมาตรฐานตามพรบ. กีฬาอาชีพและกีฬามวย
และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยการบริหารจัดการองค์กรกีฬาอาชีพและกีฬามวยให้สามารถสร้างรายได้ให้กับนักกีฬา และบุคลากรกีฬาอาชีพและกีฬามวยได้อย่างยั่งยืน

              SO3 การบริหารจัดการกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย 
เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทุกระดับ ตั้งแต่กีฬาเป็นเลิศ กีฬาอาชีพ และกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ (Sports Tourism) รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวยไทยสู่การเป็นวัฒนธรรมสากล ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการกีฬาของเอเชีย โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กิจกรรมกีฬาสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

              SO4 การพัฒนาสภาพแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมและบริการทางการกีฬา เป้าหมาย สร้างมูลค่าเพิ่มทางสังคมและพาณฺิชย์จากกิจกรรม การแข่งขันกีฬาและการบริการ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์ของ กกท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนารูปแบบการให้บริการและผลิตภัณฑ์ของ กกท. ตอบสนองความต้องการของนักกีฬา บุคลากรทางการกีฬา ประชาชน ผู้ใช้บริการ องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างโอกาส ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการกีฬา กิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกายของประชาชน และกระแสความตื่นตัวทางการกีฬา เพื่อขยายฐานประชากรกีฬา และส่งเสริมพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองกีฬาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย

              SO5 การพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรด้วยระบบดิจิทัล นวัตกรรม และทุนมนุษย์ เป้าหมาย คือการพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการยกระดับการบริหารจัดการองค์กรของ กกท. ให้มีมาตรฐานตามแนวทางการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ (SE-AM) รวมทั้งส่งเสริมธรรมาภิบาล

โดยการนำระบบดิจิทัล นวัตกรรม และการบริหารทุนมนุษย์ เข้ามาปรับปรุงกระบวนการทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง กล่าวคือ นโยบายสำคัญของ กกท. คือการยกระดับวงการกีฬาไทยให้เข้มแข็งอย่างเป็นระบบ ครบวงจร และยั่งยืน ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านกีฬาที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มต้นตั้งแต่การพัฒนาเยาวชนสู่ความเป็นเลิศ จนก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ เพื่อหล่อหลอม “พลังนักกีฬาไทย” ให้ก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ยังมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาค และใช้กีฬาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆ ในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานกีฬา รวมทั้งส่งเสริมกีฬาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและชื่อเสียงให้แก่ประเทศ

#การกีฬาแห่งประเทศไทย
#SportEvent

https://youtu.be/wvIoFwfnuIk

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box
“เบล-เน็กซ์ BUS-แม็กซ์” นำทีมผสานโลกตัวอักษรกับเสียงดนตรี ธีม “Melody of Books” งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30”

“เบล-เน็กซ์ BUS-แม็กซ์” นำทีมผสานโลกตัวอักษรกับเสียงดนตรี ธีม “Melody of Books” งาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30”

0 0
Read Time:3 Minute, 1 Second

PUBAT ประกาศความพร้อมเดินหน้าจัดงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30” อย่างยิ่งใหญ่ ครั้งแรกของไทย กับธีม “Melody of Books – อ่านหรือยัง ฟังหรือเปล่า” ที่ผสานโลกแห่งตัวอักษรและเสียงดนตรีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว “เพราะหนังสือคือบทกวี ดนตรีก็คือท่วงทำนอง” โดยในงานแถลงข่าว มีศิลปินสุดฮอต อาทิ เบล วริศรา ศิลปินค่าย Home Run Music มาร่วมร้องเพลง “หลงไปอ่านเธอ ” ร่วมด้วย เน็กซ์ ณัฐกิตติ์ ศิลปินวง BUS, แม็กซ์ เจนมานะ ศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง นักเขียนรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด รวมทั้ง เนย-กมนชนก ขวัญเมือง นักกีฬาว่ายน้ำ ทีมชาติไทยชุดชีเกมส์ มาร่วมพูดคุยแนะนำประเภทหนังสือที่ชอบอ่าน และไม่พลาดชวนนักอ่าน มาพบกับกองทัพหนังสือดีๆ ที่น่าอ่าน มาให้เลือกซื้อกว่า 2 ล้านเล่ม สำหรับ Streaming ทุกท่านสามารถนำเอาเพลงไปใช้ประกอบคลิปได้ในทุกโซเชียลมีเดีย


สำหรับ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30” ในธีม “Melody of Books” ถือเป็นครั้งแรกกับการพลิกโฉมสู่ประสบการณ์ใหม่ อ่านเพลิน ฟังเพราะ ช้อปเพียบ! ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของงานหนังสือให้ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านรุ่นใหม่และหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยยังคงเน้นที่คุณค่าของการอ่านเป็นแกนกลาง ต่อยอดด้วยกิจกรรมที่สนุก เข้าถึงง่าย และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ พร้อมบูธจำหน่ายหนังสือกว่า 900 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วประเทศ รวมหนังสือกว่า 2 ล้านเล่ม และเปิดตัวหนังสือใหม่มากกว่า 2,000 ปก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการสุดว้าว และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเตรียมจัดเต็มมาเอาใจเหล่านักอ่าน อาทิ นิทรรศการ View ’til Touch เปิดประสบการณ์ “อ่านที่ฟังได้” และ “เพลงที่อ่านออก” ผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์แอคทีฟ พร้อม Listening Pods และกิจกรรมทดลองแต่งเพลงจากหนังสือ, การแสดง “เจ้าขุนทองและผองเพื่อน” หุ่นมือผสานดนตรีสดและการเล่านิทานสำหรับเด็กและครอบครัว, กิจกรรม “Little Read Universe” จักรวาลอ่านเล่นเล่น, Read for The Blind กิจกรรมสาธารณะเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงหนังสือเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา , นิทรรศการ “รางวัลชมนาด 2568” แสดงผลงานวรรณกรรมสตรีจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ “PUBAT CONTEST” การประกวดระดับประเทศ 3 รายการ ได้แก่ การเล่านิทาน การแต่งเพลงส่งเสริมการอ่าน และการแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมศึกษา

อีกทั้ง สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ยังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านหนังสือ, และ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเสริมเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังสือของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน และกิจกรรมเพื่อสังคม ที่สะท้อนบทบาทของหนังสือในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เช่น โครงการ “หนึ่งอ่าน ล้านตื่น” มอบทุนหนังสือให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ และกิจกรรม “Pick A Note” สอยดาวตัวโน้ต ร่วมบริจาคเพื่อการอ่าน พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย

เตรียมพบกับปรากฏการณ์แห่งการอ่านครั้งใหม่ อ่านเพลิน ฟังเพราะ ช้อปเพียบ! มีหนังสือดี ๆ และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจนับไม่ถ้วนใน งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 วันที่ 9 – 19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5–7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: Thai Book Fair

https://youtu.be/ZbEgQpH75do?si=zhtZIK9YwIU0u8Of

https://youtu.be/c6gW06ahHdA?si=xun9PuyjaXn-27mp

https://youtu.be/IQefgCGPqw4?si=XZPAERgBc92oPqlr

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Facebook Comments Box