ททท. เผยผลสำเร็จโครงการ “Workation Paradise Throughout Thailand Season 3” ดันไทยสู่ Workation Hub ของภูมิภาค สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 250 ล้านบาท
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยผลสำเร็จ …
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยผลสำเร็จ …
วันนี้ (17 กันยายน 2568) นางสาวฐาปนีย์ เกียรต …
กรุงเทพฯ 17 กันยายน 2568 – เริ่มแล้ว! อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลก จัด 2 งานใหญ่แห่งปีรวมไว้ในที่เดียว เพื่ออุตสาหกรรมอาหารไทย “ฟู้ด อินกรีเดียนท์ส เอเชีย 2025” (Food ingredients Asia 2025) หรือ Fi Asia 2025 และ “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” (Vitafoods Asia 2025) มหกรรมแสดงนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสุขภาพ ที่ครบครันที่สุดในเอเชียมากกว่า 1,500 แบรนด์ จาก 70 ประเทศทั่วโลก เชื่อมโลกนวัตกรรมอาหารจากห้องแล็บสู่ตลาดโลก พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากล เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหาร และสุขภาพ สร้างโอกาส นำไทยสู่ศูนย์กลาง Health & Wellness Hub
นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ – ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจเสริมอาหารของไทยเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย โดยโอกาสใหม่ทางการตลาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะมูลค่าตลาดเสริมอาหารทั่วโลก และตลาดภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มขยายตัวทุกปีจากปัจจัยผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากกว่าการรักษา อย่างไรก็ดี ตลาดเสริมอาหารในไทยยังต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้ผลิตและแบรนด์ในต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ในประเทศ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของต้นทุนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่สำคัญของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
จัดเต็ม 1,500 แบรนด์ จาก 70 ประเทศทั่วโลก
นางสาวรุ้งเพชร กล่าวว่า ทั้งสองงานเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ตอบโจทย์กระแส Functional Foods & Beverages, Future Foods และ Nutraceuticals ที่กำลังมาแรงและเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดเอเชียและระดับโลก โดยเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญมากกว่า 1,500 แบรนด์ จาก 70 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจส่วนผสมอาหารและสุขภาพ ตั้งแต่วัตถุดิบต้นน้ำ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และบริการครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ทุกเทรนด์ที่กำลังเติบโตในตลาดเอเชียและตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น Functional Foods & Beverages, Future Foods และ Nutraceuticals คาดว่าจะมีผู้ร่วมชมงาน 36,000 ราย
ไฮไลต์กิจกรรมที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและสุขภาพ
• Main Stage: สัมมนาวิชาการกว่า 120 หัวข้อ ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ Personalized Nutrition, Ingredient Trends, Rules & Regulations และโอกาสธุรกิจในอาเซียน
• New Ingredients & New Products Zone: เปิดตัวนวัตกรรมและส่วนผสมใหม่ ๆ ที่ทั่วโลกจับตามอง
• The Sensory Box: เวิร์กช็อปวิเคราะห์ประสาทสัมผัส รสชาติ กลิ่น เนื้อสัมผัส ของอาหารและเครื่องดื่ม
• A to C (Academic to Commercial): ส่วนแสดงงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยและสถาบันชั้นนำ เพื่อโอกาสในการต่อยอดเชิงพาณิชย์
• Innovation Tours: ทัวร์ชมนวัตกรรมภายในงานเพื่อให้ผู้ประกอบการค้นหาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ตรงความต้องการ โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Nutrimarketing
• Business Matching: สร้างเครือข่ายธุรกิจจับคู่ผู้ซื้อ–ผู้ขาย ด้วยระบบเอไอ
ขับเคลื่อน 3 ด้าน ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลาง Health & Wellness Hub
ทั้งนี้ เพื่อการเข้าถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ พร้อมทั้งการลดข้อจำกัดของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเสริมอาหารของไทยนั้น อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ มีแนวคิดนำ 2 งานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียมารวมไว้ด้วยกันในที่เดียว คืองาน “ฟู้ด อินกรีเดียนท์ส เอเชีย 2025” (Food ingredients Asia 2025) หรือ Fi Asia 2025 และ “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” (Vitafoods Asia 2025) โดยมีความตั้งใจที่จะผลักดันให้เกิด 3 เรื่องที่สำคัญขึ้นในประเทศไทย
1.สร้างโอกาสผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีและส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น โปรตีนทางเลือกจากพืชและจุลินทรีย์, สารสกัดจากสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเฉพาะ, และเทคโนโลยีการผลิตที่ยั่งยืน
2.สร้างเครือข่ายธุรกิจระดับสากล งานในครั้งนี้เป็นการรวมตัวของผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกกว่า 30,000 คน จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
3.ยกระดับความน่าเชื่อถือ การได้นำเสนอผลิตภัณฑ์บนเวทีนี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ และยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของไทยมีคุณภาพทัดเทียมกับมาตรฐานสากล
ความสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารและนวัตกรรมนั้น นางสาวรุ้งเพชร กล่าวว่า การผลักดันไปสู่เป้าหมาย “ศูนย์กลางนวัตกรรม Food Ingredient แห่งเอเชีย” พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลก เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในการทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการไทยได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ และตลาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยการผสมผสานมาตรฐานและความปลอดภัยระดับสากล นวัตกรรมและงานวิจัยเชิงลึก การพัฒนาแบรนด์และการตลาดโลก ความยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า สำคัญ คือความร่วมมือระหว่างรัฐ – เอกชน – วิชาการ
ส่วนอุตสาหกรรม Health and Wellness ประเทศไทยมีเป้าหมายหลักคือการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นักท่องเที่ยวทั่วไป นักท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (long stay) และกลุ่มผู้เข้าร่วมงานอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายที่การผลักดันไทยให้เป็น Health and Wellness Hub หรือ ศูนย์กลางด้านสุขภาพและการให้บริการด้านสาธารณสุข ครอบคลุมบริการสปา ศูนย์บริการทางการแพทย์ โรงพยาบาล ตลอดจนร้านอาหารต่าง ๆ
โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยยังมีขีดความสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากการยอมรับด้านคุณภาพบริการและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้นักท่องเที่ยวในเอเชียส่วนใหญ่เลือกมาประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯ
“ประเทศไทยสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ จากการผลิต Functional Ingredients เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ, โปรตีนจากพืช, เสริมภูมิคุ้มกัน, Anti-aging ที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุและผู้รักสุขภาพ ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบเฉพาะ (Specialty Ingredients) จากต่างประเทศ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงโภชนาการที่ดีขึ้น และลดภาระด้านสาธารณสุขในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน อาหารบำรุงสมอง และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิว ที่ผู้ประกอบการไทยมีจุดแข็งในการแข่งขัน ทั้งในด้านวัตถุดิบและภูมิปัญญาไทย ที่สามารถนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงมาตรฐานการผลิตระดับสากลที่ได้รับการยอมรับ” นางสาวรุ้งเพชร กล่าว
ห้ามพลาด!!! งาน Fi Asia 2025 และ Vitafoods Asia 2025 จะเป็นเวทีที่สำคัญส่วนหนึ่งให้ผู้ประกอบการไทยในการคว้าโอกาสทางธุรกิจ เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นผู้นำในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน
“ปลดล็อก” ข้อจำกัดทางธุรกิจ “เปิดโอกาส” อัปเดตเทรนด์โลก สร้างเครือข่าย และต่อยอดธุรกิจไปพร้อมกับผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพแห่งเอเชีย ลงทะเบียนฟรี https://lnk.bio/fiasia_vitafoodsasia แล้วพบกันที่งานฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 19 กันยายน 2568 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ครอบคลุมทั้ง ชั้น LG, G และชั้น 1 (วันสุดท้ายจัดถึง 17:00 น.)
#FiAsia2025 #VitafoodsAsia2025
บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ส่งโปรเอาใ …
บริษัท เอ. เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข …
ประเดิมออนแอร์เป็นเรื่องแรกกับซีรีส์วายแนวสยองขวัญ เรื่อง “The Last Night คืนสุดท้าย” 1 ใน 4 เรื่อง จากโปรเจกต์ “4 Destiny” ของค่าย “เมค อะ พิคเจอร์ โปรดักชั่น” กำกับโดย “นน-ชานน ริกุลสุรกาน” พร้อมคว้านักแสดงมากฝีมือ อย่าง พี-เอกภพ ต๊ะตา, ป้าน-จิรโชติ โชติทิฆัมพร, จัสมิน-ทัศชมน ช่างปัญญา, เอิร์ธ-นันทวัฒน์ ไพบูลย์ภัทรธน, ดี้-ปัทมา ปานทอง และ เมย์-เมธกานต์ เอนกธนะสุวรรณ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญสุดเข้มข้น
โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราว “The Last Night คืนสุดท้าย” เกิดจากความสัมพันธ์ของ “ยศ” นำแสดงโดย “พี เอกภพ” และ “เอ็ม” นำแสดงโดย “ป้าน จิรโชติ” ที่ต่างเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่มีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันมากมาย รวมถึงคำมั่นสัญญาที่ทั้งคู่ได้ตกลงกันไว้ก่อนตาย
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ต้องสิ้นสุดลง เมื่อ “เอ็ม” เกิดคิดเกินเลยกับ “ยศ” ทั้งที่รู้ว่ายศมีแฟนอยู่แล้ว จึงเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้ ”ยศ” โกรธ จนถึงขั้นไล่ “เอ็ม” ผู้เป็นเพื่อนสนิทออกจากบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่านี่อาจเป็นคืนสุดท้าย ที่ทั้งคู่จะได้เจอกัน
มาร่วมลุ้นไปกับความสัมพันธ์ของ “ยศ” และ “เอ็ม” ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้มั้ย? และคำสัญญาก่อนตายคืออะไร? ติดตามได้ในซีรีส์ “The Last Night คืนสุดท้าย” จากโปรเจกต์ “4 Destiny” ทาง Viu เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายนนี้ เวลา 20.00น. ห้ามพลาด!!
#4DestinyProject #ViuOriginal
#TheLastNightSeries
#คืนสุดท้าย
สมาพันธ์เฮลธ์ จำกัด ประกาศเปิดตัว SAMA LAB แบ …
“สมานฉันท์” ร้านอาหารตามสั่งคุณภาพดี เปิดแล้ว …
วันที่ 6 กันยายน 2568) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม “TAT Connex Creator Challenge : เที่ยวไทยให้ Connex เฟ้นหาคอนเทนต์ท่องเที่ยวสุดปัง” ณ SCBX NEXT TECH สยามพารากอน
โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานเปิดงานฯ พร้อมกันนี้ได้รับเกียรติจากนายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ร่วมเสวนาฯ ภายในงานยังจัดกิจกรรม “TAT Connex Workshop : How to Create Content ให้ปัง” เชิญ 3 วิทยากรตัวท็อปมาแลกเปลี่ยนทักษะการสร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิทัล เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์ม TAT Connex เสริมประสิทธิภาพการตลาดและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมชวนผู้สนใจส่งวิดีโอคอนเทนต์ท่องเที่ยวเข้าร่วมประกวดและลุ้นรับรางวัล ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม -14 กันยายน 2568 ผ่านเว็บไซต์ www.tatconnex.com
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า กิจกรรม TAT Connex Creator Challenge :เที่ยวไทยให้ Connex เฟ้นหาคอนเทนต์ท่องเที่ยวสุดปัง” และ “TAT Connex Workshop : How to Create Content ให้ปัง” เป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดโครงการ TAT Connex ที่ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ด้วยการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวผ่านอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดที่มีความสำคัญ เพิ่มโอกาสทางการตลาดและประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
โดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ TAT Connex ทั้งรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับอินฟลูเอนเซอร์ให้สามารถพัฒนาธุรกิจและสร้างสรรค์คอนเทนต์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเต็มศักยภาพ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการและอินฟลูเอนเซอร์เข้าร่วมลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 500 ราย
สำหรับกิจกรรม TAT Connex Creator Challenge : เที่ยวไทยให้ Connex เฟ้นหาคอนเทนต์ท่องเที่ยวสุดปัง ททท. เชิญชวนอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวมาร่วมสร้างสรรค์วิดีโอคอนเทนต์ท่องเที่ยวไทยในสไตล์ของตนเอง พร้อมโปรโมตแพลตฟอร์ม TAT Connex โพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตัวเอง พร้อมเมนชั่น @tatconnex และติดแฮชแท็ก #TATConnex #creatorchallenge #TATConnexCreatorChallenge #AmazingThailand
โดยการตัดสินแบ่งเป็น 2 เกณฑ์หลัก คือ ความคิดสร้างสรรค์ และ Engagement รวมของโพสต์ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม – 9 กันยายน 2568 ผ่านเว็บไซต์ www.tatconnex.com และส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมได้ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 14 กันยายน 2568 โดยจะประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในวันที่ 18 กันยายน 2568 และประกาศผู้ชนะ 3 อันดับ ในงานประกาศรางวัลวันที่ 20 กันยายน 2568 โดยผู้ชนะอันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 และ 3 รางวัลละ 20,000 บาท
สำหรับงานแถลงข่าวฯ ในวันที่ 6 กันยายน 2568 ททท. ยังได้จัดกิจกรรม TAT Connex Workshop : How to Create Content ให้ปัง” ประกอบด้วยกิจกรรมเสวนา “Creators & Tourism: Driving Growth Together” เวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดการเติบโตไปพร้อมกันระหว่างครีเอเตอร์และการท่องเที่ยว โดยมี
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ผู้มีอิทธิพลทางความคิดด้านการท่องเที่ยว (Influencer) และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร่วมเสวนา และยังมีกิจกรรมเวิร์กชอปเรียนรู้และแลกเปลี่ยนทักษะการผลิตคอนเทนต์อย่างใกล้ชิด แบบไม่มีค่าใช้จ่าย กับ 3 วิทยากรตัวท็อป ได้แก่ กิจกรรมเวิร์กชอป “AI Shortcut for Creator Economy” เคล็ดลับการใช้ Ai ทำคอนเทนต์ให้ปัง ให้ไวกว่าเดิม จากผู้เชี่ยวชาญด้านการนำ AI ประยุกต์ใช้ในธุรกิจ “โซอี้ เจ้าของช่อง Digital Shortcut” ต่อด้วยกิจกรรมเวิร์กชอป “Capturing Journeys Telling Travel Stories Through the Lens” เรียนรู้ทริคถ่ายรูปจาก “กอล์ฟ เจ้าของช่องกอล์ฟมาเยือน” และเติมพลัง สร้างแรงบันดาลใจกับ “เบนซ์ เจ้าของช่อง The Gaijin Trips แบกเป้เที่ยวคนเดียว” เอกลักษณ์โดดเด่น ทำวิดีโอสไตล์เรียบง่ายไม่ซ้ำใครในหัวข้อ “From Journeys to Stories The Gaijin Trips”
ททท. เชื่อมั่นว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเปิดตัวกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์ม TAT Connex ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ด้าน Digital Marketing ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสื่อมวลชน KOL อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในการทำงานร่วมกันและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย รวมทั้งจะเป็นประโยชน์กับการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและยกระดับ Customer Journey ให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธภาพ
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#TATConnexCreatorChallenge
#TATConnex #AmazingThailand
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) โดยกองพัฒนาดิจ …